RS
คหสต : ธุรกิจน่าจะเริ่ม turn around หลังจากมีการเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ จากเดิมที่มีรายได้หลักมาจากค่ายเพลง เป็น ธุรกิจสื่อทีวีดิจิตอล ช่อง 8 และ ธุรกิจ health and beauty
ปีนี้น่าจะพลิกจากขาดทุน มาเป็นกำไรได้ หลังจากที่ Q1/60 มีกำไรสุทธิที่ 47 ลบ. จาก Q4/59 ขาดทุน 64 ลบ. ถ้า Q3/Q4 กำไรกลับมาเพิ่มได้ ซัก100ลบ คงได้เห็นราคาที่ 12 บ. อีกครั้งง
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
ไทยพาณิชย์ ซื้อ 12.00
ยูโอบี เคย์เฮียน ซื้อ 11.70
เอเชีย พลัส ซื้อ 10.40
ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 10.80
ทิสโก้ ถือ 10.00โนมูระ
พัฒนสิน NEUTRAL 9.90
RS: ธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามมีแนวโน้มเชิงบวกมาก
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรจากยอดขายสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม
จากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ RS ได้แสดงมุมมองเชิงบวกมากต่อธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม (H&B) แต่มองแนวโน้มธุรกิจสื่อแผ่วลง ยอดขายสินค้า H&B โตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือน เม.ย. อยู่ที่ระดับ 95 ล้านบาท เทียบกับ 60 – 70 ล้านบาทต่อเดือนในช่วงไตรมาสแรก เรามองว่า RS ดำเนินธุรกิจ H&B มาถูกทางแล้ว จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไร เพื่อสะท้อนการเพิ่มคาดการณ์ยอดขายสินค้า H&B ขึ้น และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 60 ขึ้นเป็น 11.00 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”
เม็ดเงินโฆษณาลดลง ทำให้แนวโน้มธุรกิจสื่อแผ่วลง
RS เห็นการใช้เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อแผ่วลงใน 1Q60 แม้ทาง Nielsen ได้รายงานเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อทีวีดิจิทัลโต 7%YoY แต่หลักๆ มาจากช่อง Workpoint จึงเป็นเหตุให้ช่อง 8 น่าจะไม่ปรับขึ้นอัตราโฆษณาในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือ ผู้บริหารคาดว่ารายได้ช่อง 8 ใน 2Q60 และ 3Q60 จะเพิ่มขึ้น 15% จาก 1Q60 (ประมาณ 306 ล้านบาท) ดังนั้น เราเชื่อว่าประมาณการกำไรที่ 1,445 ล้านบาท (อิงสมมติฐานอัตราการขายเวลาโฆษณา 60%) ดูเป็นไปได้ และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจทีวี รวมช่องดาวเทียม 3 ช่อง จะฟื้นตัวจาก -6% ปีก่อน เป็น 18% ในปีนี้ เนื่องจากต้นทุนจะเพิ่มน้อยกว่าการเติบโตรายได้
ยอดขายสินค้า H&B เป็นไปตามเป้าหมายของผู้บริหาร
ใน 1Q60 ธุรกิจ H&B ทำรายได้รวม 199 ล้านบาท ตัวเลขยอดรายเดือนสูงสุดเป็น 80 ล้านบาท ในเดือน มี.ค. ส่วนเดือน เม.ย. ยอดขายได้ทะลุระดับสูงสุดในเดือน มี.ค. เป็น 95 ล้านบาท และแนวดน้มยังดีต่อเนื่องในเดือน พ.ค. ทางผู้บริหารมั่นใจว่ารายได้จากธุรกิจ H&B จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 800 ล้านบาท ในปีนี้ นอกจากนี้ RS ได้เซ็นสัญญาพาร์ทเนอร์ชิพกับเจ้าของสินค้าอื่นๆ เพื่อใช้ช่องทางขายของ RS (ทีวีและทีมคอลเซ็นเตอร์) โดย RS จะได้รับผลตอบแทนในรูปอัตรากำไรขั้นต้น เราปรับเพิ่มประมาณการยอดขายจาก 420 ล้านบาท เป็น 703 ล้านบาท ซึ่งยังค่อนข้างอิงมุมมองอนุรักษ์นิยม เมีอเทียบกับยอดขายที่แท้จริง อนึ่งเรายังไม่รวมรายได้จากการขายสินค้าของพาร์ทเนอร์ดังกล่าวเข้ามาในประมาณการ แต่ได้ปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นลงจาก 75% เป็น 70% เพื่อสะท้อนผลที่แท้จริงใน 1Q60
คงคำแนะนำ “ซื้อ”
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 60-62 ขึ้น 54%, 16%, และ 4% ตามลำดับ หลักๆ มาจากการปรับประมาณการรายได้จากธุรกิจ H&B เพิ่มขึ้น และปรับราคาเป้าหมายปี 60 เป็น 11.00 บาท (จาก 10.70 บาท) ซึ่งยังมี upside 19% คงคำแนะนำ “ซื้อ”
ยูโอบี เคย์เฮียน ซื้อ 11.70
เอเชีย พลัส ซื้อ 10.40
ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 10.80
ทิสโก้ ถือ 10.00โนมูระ
พัฒนสิน NEUTRAL 9.90
RS: ธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามมีแนวโน้มเชิงบวกมาก
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรจากยอดขายสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม
จากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ RS ได้แสดงมุมมองเชิงบวกมากต่อธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม (H&B) แต่มองแนวโน้มธุรกิจสื่อแผ่วลง ยอดขายสินค้า H&B โตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือน เม.ย. อยู่ที่ระดับ 95 ล้านบาท เทียบกับ 60 – 70 ล้านบาทต่อเดือนในช่วงไตรมาสแรก เรามองว่า RS ดำเนินธุรกิจ H&B มาถูกทางแล้ว จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไร เพื่อสะท้อนการเพิ่มคาดการณ์ยอดขายสินค้า H&B ขึ้น และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 60 ขึ้นเป็น 11.00 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”
เม็ดเงินโฆษณาลดลง ทำให้แนวโน้มธุรกิจสื่อแผ่วลง
RS เห็นการใช้เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อแผ่วลงใน 1Q60 แม้ทาง Nielsen ได้รายงานเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อทีวีดิจิทัลโต 7%YoY แต่หลักๆ มาจากช่อง Workpoint จึงเป็นเหตุให้ช่อง 8 น่าจะไม่ปรับขึ้นอัตราโฆษณาในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือ ผู้บริหารคาดว่ารายได้ช่อง 8 ใน 2Q60 และ 3Q60 จะเพิ่มขึ้น 15% จาก 1Q60 (ประมาณ 306 ล้านบาท) ดังนั้น เราเชื่อว่าประมาณการกำไรที่ 1,445 ล้านบาท (อิงสมมติฐานอัตราการขายเวลาโฆษณา 60%) ดูเป็นไปได้ และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจทีวี รวมช่องดาวเทียม 3 ช่อง จะฟื้นตัวจาก -6% ปีก่อน เป็น 18% ในปีนี้ เนื่องจากต้นทุนจะเพิ่มน้อยกว่าการเติบโตรายได้
ยอดขายสินค้า H&B เป็นไปตามเป้าหมายของผู้บริหาร
ใน 1Q60 ธุรกิจ H&B ทำรายได้รวม 199 ล้านบาท ตัวเลขยอดรายเดือนสูงสุดเป็น 80 ล้านบาท ในเดือน มี.ค. ส่วนเดือน เม.ย. ยอดขายได้ทะลุระดับสูงสุดในเดือน มี.ค. เป็น 95 ล้านบาท และแนวดน้มยังดีต่อเนื่องในเดือน พ.ค. ทางผู้บริหารมั่นใจว่ารายได้จากธุรกิจ H&B จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 800 ล้านบาท ในปีนี้ นอกจากนี้ RS ได้เซ็นสัญญาพาร์ทเนอร์ชิพกับเจ้าของสินค้าอื่นๆ เพื่อใช้ช่องทางขายของ RS (ทีวีและทีมคอลเซ็นเตอร์) โดย RS จะได้รับผลตอบแทนในรูปอัตรากำไรขั้นต้น เราปรับเพิ่มประมาณการยอดขายจาก 420 ล้านบาท เป็น 703 ล้านบาท ซึ่งยังค่อนข้างอิงมุมมองอนุรักษ์นิยม เมีอเทียบกับยอดขายที่แท้จริง อนึ่งเรายังไม่รวมรายได้จากการขายสินค้าของพาร์ทเนอร์ดังกล่าวเข้ามาในประมาณการ แต่ได้ปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นลงจาก 75% เป็น 70% เพื่อสะท้อนผลที่แท้จริงใน 1Q60
คงคำแนะนำ “ซื้อ”
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 60-62 ขึ้น 54%, 16%, และ 4% ตามลำดับ หลักๆ มาจากการปรับประมาณการรายได้จากธุรกิจ H&B เพิ่มขึ้น และปรับราคาเป้าหมายปี 60 เป็น 11.00 บาท (จาก 10.70 บาท) ซึ่งยังมี upside 19% คงคำแนะนำ “ซื้อ”
***RS สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 23/05/2560 22/05/2560 150,000 9.55 ซื้อ
***RS-W3 เริ่มทำการซื้อขาย : 01 มิ.ย. 2560 จำนวนหน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบี : 193,332,760 ยน อัตราการใช้สิทธิ (ใบสำคัญแสดงสิทธิ : : 1 : 1 หุ้นสามัญใหม่) ราคาการใช้สิทธิ (บาทต่อหุ้น) : 12.50
***สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานของ RS ในปี 60 เชื่อว่าจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 3.5 พันล้านบาท เติบโตโดดเด่นจาก 2 ธุรกิจหลัก คือ
1.ธุรกิจสุขภาพและความงามที่ได้ “ไลฟ์สตาร์" ทำรายได้และกำไรมากที่สุดให้กับบริษัทฯ โดยล่าสุดกำลังเจรจากับพันธมิตรรายใหม่ เพื่อนำสินค้ามาขายเพิ่มเติมผ่านช่องทางเทเลเซลล์ (Telesales)
2.ธุรกิจคือสื่อที่ได้ “ช่อง 8" เป็นเรือธง เพราะมีแผนจะปรับผังช่อง 8 ในไตรมาส 3 เพื่อเติมความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น หลังจากช่วงต้นไตรมาส 2 ได้เปิดตัวรายการใหม่ที่ผลิตเอง แล้วมีการตอบรับจากลูกค้าพันธมิตรทำสัญญาการซื้อโฆษณาระยะยาวเข้ามาต่อเนื่อง
ล่าสุดเรตติ้งช่อง 8 ขึ้นมาอยู่อันดับ 5 แซงช่อง ONE ของแกรมมี่ที่อยู่อันดับ 6
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น