คือ สิ่งที่เราควรคำนึงถึงเวลาจะเลือกหุ้นนั้น ไม่ใช่แค่ดูว่านิสัยหุ้นตัวนั้นเป็นยังไง เป็นหุ้นปั่น วิ่งเร็ว สวิงแรง หรือว่าหุ้นพื้นฐานดี วิ่งช้า ค่อยๆไป
แต่เรายังต้องดูว่าเรามีเวลาในการเทรดแค่ไหน เงื่อนไขในการเทรดเป็นยังไง เป็นfull time trader หรือว่า ทำงานประจำ ไม่สามารถเฝ้าได้ เพราะถ้าเราไม่มีเวลา แต่ไปเลือกเล่นหุ้นปั่น ก็จะทำให้เราเสียหายหนักได้ และการวิเคราะห์ตัวเราทำให้สามารถเลือก time frame สำหรับการดูกราฟได้ อีกนั้นแหละว่า จำไว้ว่าเข้า TF ไหน ก็ต้องออกที่ TF นั้นเสนอนะ โดยรอให้จแท่งก่อน...ไม่ใช่ว่าใช้ TF 5 นาทีดูกราฟ แล้วซื้อหุ้น แต่เวลาหลุดจุดขาย กลับมโนหลอกตัวเองไปขายโดยดู TF Day ....แบบนี้ไม่เอานะ > <
พอเราดูว่าระบบเทรดของเราเหมาะสมกับตลาดแบบไหน เหมาะสมกับตัวเราหรือป่าว
ก็นำมาทำการ Back test / Forward Test ...ปีใหม่แล้ว หาตัวเองให้เจอซะทีนะ หาหน้าเทรดแบบที่ตัวเองถนัดและทำเงินได้ก็พอ ..
สำหรับเทรนหุ้นที่มาต่อเนื่องในปีนี้ ที่เห็นได้ชัดเจน น่าจะเป็นกลุ่มโรงพยาบาล ที่มีเทรนขาขึ้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และปีนี้ก็จะมาโฟกัสที่กลุ่มนี้กัน ไม่ว่าจะเป็น BDMS BCH CHG VIBHA และโรงพยาบาลน้องใหม่อย่าง LPH
ส่วนกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยง จนกว่าจะเริ่มเห็นแนวทางที่ชัดเจน ก็คือกลุ่มสื่อสารทั้งหลาย ..เริ่มด้วย น้าแอ้ด ADVANC DTAC TRUE JAS INTUCH ..
อ้อ ย้ำกัน(ตัวเอง)ลืม อีกครั้ง เรื่องที่จำเป็นในการเทรด
1. MIND SET เค้าว่าให้รักษาเงินต้นให้ได้ แล้วกำไรจะตามมาเอง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมา และยากที่สุด
ในการที่ต้องตัดใจ CUT LOSS แต่เมื่อถึงจุดคัท ต้องคัทนะ หลายๆครั้งอาจจะเจอว่าคัทไปแล้ว เฮ้ย มันเด้งใส่หน้า แล้ววิ่งเลย ..คือเราก็ต้องดูว่าจุดคัทที่วางไว้เหมาะสมไหม หรือถ้ามันมาจริงๆก็ซื้อกลับในจุดที่ขายไป ซื่งโดยส่วนใหญ่ จะได้ของหกลับที่ราคาแพงขึ้นหน่อย ซึ่งถ้ามันจะไปจริงๆ ก็คุ้มนะ
2. แผนการเทรดที่ชัดเจน คือต้องมีแผนการก่อนที่เราจะซื้อหรือขายทุกครั้ง และทำตามอย่างเคร่งครัด
ว่าจะซื้อที่ตรงไหน ออกตรงไหน ซื้อจำนวนกี่หุ้น จะยอมขาดทุนได้เท่าไร ไฟล์excel คำนวณมีไว้แล้ว
ไปคำนวณซะ ก่อนเข้าซื้อ
เกริ่นกันมาแล้ว ..ก็ค่อยๆมาทยอยส่องหุ้นทีละตัวเลยล่ะกัน เริ่มจากหุ้นที่ดอยอยู่ในปอดเล็กๆ 55+
ASIMAR
มาวิแคะตัวนี้กันนะ ..โดยใช้ Volume Analysis (VA) ประกอบ จะเห็นว่าราคามีการเปลี่ยนกรอบการเล่นตั้งแต่ 17/11/58 พอเราเปิด VA ตั้งแต่วันนั้น จะเห็นว่า มี POC คือแท่งสูงสุด ที่ 3.66 คือถ้าผ่านไปได้ ก็จะเจออีกด่านแถว 3.70 และถ้ายืน 3.74 ไปได้แน่ๆ ก็มีโอกาสมากที่จะกลับไปที่ แถวๆ 4 บ.
** ตัวนี้ตามดู ตั้ง Alert ไว้ที่ 3.66 ล่ะกัน
KTB
จากกราฟ KTB จะเห็นว่า 14/12 คือ selling climax
15-17/12 คือ RR (Rally Reaction ) คือเวลาที่หุ้นลงมาหนักมากๆจนถึงจุดสุดยอด ก็จะมีการเด้งกลับขึ้นไป
จากนั้น 18/12 ยืนยัน RR เข้าสู่ะสม
21/12 ยืนยัน สะสม แน่นอน กำลังจะทะลุกรอบ
22/12 ทะลุเป้น mark up หลังจากนั้น พักตัวรอขึ้นต่อ อยากจะรู้สันยานว่าจะขึ้นเมื่อไหร่ ให้ ดู va
เปิด va เริ่มวันที่ 22/12 จะเห็น zof 16.7 - 17.1
low area ที่ 16.9 - 17.1 คือการปฏิเสธราคา
ดังนั้น ถ้า 17.2 เกิด จะแน่ใจมากว่า break out ไปต่อแน่ๆ....จบนะ
ขอบคุณครับ
ตอบลบ