วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2558

3 เหตุผลในการขายหุ้น

- 3 เหตุผลในการขายหุ้น -

 “ฟิลลิป ฟิชเชอร์ – บิดาแห่งการลงทุนแบบเน้นการเติบโต” ได้กล่าวว่า ในการลงทุนนั้นถ้าเราเลือกซื้อหุ้นที่ดีเยี่ยมแล้ว แทบไม่มีความจำเป็นต้องขายออกไป แต่ถ้าจะขาย เขาจะขายด้วยเหตุผล 3 ประการ ซึ่งได้แก่

    1. เมื่อตัดสินใจผิดในการซื้อหุ้น

    บางครั้งนักลงทุนอาจเข้าไปซื้อหุ้นที่พิจารณาแล้วว่าเป็นหุ้นของกิจการที่ดี แต่หลังจากนั้นกลับพบว่าพื้นฐานของกิจการดังกล่าวย่ำแย่กว่าที่คิดไว้ในตอนแรก ซึ่งเป็นความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ในการลงทุน เมื่อรู้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิด “ฟิชเชอร์” แนะนำให้นักลงทุนขายหุ้นดังกล่าวออกไปเสีย และจงเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้นเพื่อที่จะได้ไม่ตัดสินใจผิดพลาดในลักษณะเดียวกันซ้ำอีกในภายหลัง

    2. เมื่อพื้นฐานของหุ้นนั้นมีการเปลี่ยนแปลงในทางลบ หรือเสื่อมลงจากเดิม

    แม้นักลงทุนจะเลือกลงทุนในหุ้นของกิจการที่ยอดเยี่ยมเพียงใดก็ตาม แต่เมื่อเวลาผ่านไปพื้นฐานของกิจการย่อมมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ “ฟิชเชอร์” จึงแนะนำให้นักลงทุนหมั่นติดตามการดำเนินงานของบริษัทที่ถือหุ้นอย่างใกล้ชิด

    “ฟิชเชอร์” ตั้งข้อสังเกตว่า การที่พื้นฐานของกิจการเสื่อมลงนั้นมาจากสาเหตุสำคัญ 2 ประการคือ การเสื่อมลงของการบริหาร ซึ่งอาจมาจากการที่ผู้บริหารมั่นใจกับความสำเร็จเดิมๆ จึงทำให้บริหารงานโดยประมาท หรือเฉื่อยชาลงกว่าเดิม หรืออาจเกิดจากการที่บริษัทมีผู้บริหารชุดใหม่ซึ่งไม่มีความสามารถเพียงพอ ทำงานไม่ได้ตามมาตรฐานที่ผู้บริหารชุดเดิมทำไว้ หรือไม่ได้เดินตามนโยบายหรือกลยุทธ์ที่เคยสร้างความสำเร็จให้กับบริษัท กรณีเช่นนี้ “ฟิชเชอร์” แนะนำให้ขายหุ้นทิ้งทันทีแม้ว่าสภาวะตลาดจะดูดีเพียงใดก็ตาม

    สาเหตุอีกประการหนึ่งก็คือ การเติบโตที่ลดลงจากเดิม บางครั้งกิจการอาจมีการเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่องมาหลายปี แต่ในปีหลังๆ เริ่มมีการชะลอตัวลงจนไม่โดดเด่นเหมือนในอดีต สำหรับการขายหุ้นในกรณีนี้ “ฟิชเชอร์” แนะนำว่า นักลงทุนอาจไม่จำเป็นต้องรีบร้อน สามารถรอจนกว่าจะหาการลงทุนที่เหมาะสมกว่าได้เสียก่อนแล้วจึงค่อยขายหุ้นออกไป

    3. เมื่อพบหุ้นที่มีความโดดเด่นกว่าตัวที่ถืออยู่

    เป็นลักษณะของการ “สวิตช์หุ้น” คือขายหุ้นตัวเดิมเพื่อเปลี่ยนไปซื้อหุ้นตัวใหม่ ในกรณีนี้ถ้านักลงทุนได้พบเจอกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่งที่มีความโดดเด่นและมั่นใจว่าจะมีอนาคตที่เจริญเติบโตอย่างชัดเจน แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่มีเงินสดในมือที่จะซื้อหุ้นตัวนั้นได้ การที่จะตัดสินใจขายหุ้นตัวเดิมที่ถืออยู่เพื่อนำเงินไปซื้อหุ้นตัวใหม่ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะทำได้ แต่ “ฟิชเชอร์” ก็เตือนให้นักลงทุนไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจขายหุ้นตัวเดิมออกไป โดยเฉพาะถ้าหุ้นตัวเดิมมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมและผ่านการคัดกรองมาเป็นอย่างดีแล้วเช่นกัน นักลงทุนจึงควรประเมินและเปรียบเทียบถึงข้อดีข้อเสียระหว่างหุ้นตัวเดิมและหุ้นตัวใหม่รวมถึงปัจจัยทุกด้านให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจ

    จะเห็นว่า การขายหุ้นของ “ฟิลลิป ฟิชเชอร์” นั้นไม่ได้เป็นการขายด้วย “อารมณ์” หรือขายด้วย “ความโลภ-ความกลัว” จากสภาวะความผันผวนของตลาดหุ้นแต่อย่างใด แต่ขายหุ้นด้วย “เหตุผล” อันเนื่องมาจากปัจจัยพื้นฐานของกิจการที่ลงทุนเป็นสำคัญ ซึ่งนั่นคือส่วนหนึ่งของแนวทางแห่งความสำเร็จในการลงทุนที่ “นักลงทุนระดับปรมาจารย์” ผู้นี้ได้แนะนำไว้สำหรับนักลงทุนรุ่นหลังอย่างพวกเรา

โดย : ประภาคาร ภราดรภิบาล
 board.thaivi.org

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

SEAFCO ดูดี ขอแงะละเอียดๆอีกที เป้าปี 60 14.10-14.40 ปี61 16 บ.

บล.ทิสโก้ : SEAFCO แนะนำ”ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 13.30 บาทเป็น 16.10 บาท แนวโน้มสดใสจากงานในมือที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที...